ขายคอนโด และอพาร์ตเม้นท์ ใน ไทย

สิทธิการเช่า (Leasehold) และการถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold)

หากคุณเป็นชาวต่างชาติที่สนใจจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมหรือซื้อบ้านในประเทศไทย คุณควรศึกษาและทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสิทธิการเช่า (leasehold) และการถือครองกรรมสิทธิ์ (freehold) เอาไปว่าไปดูกันว่าคำสองคำนี้จะมีความแตกต่างอย่างไรบ้าง 

สิทธิการเช่า (Leasehold):

สิทธิการเช่าคือการคุ้มครองสิทธิในการครอบครองทรัพย์สินโดยมีระยะเวลาจำกัดตามเงื่อนไขในสัญญา ทั้งนี้มักมีระยะเวลาระบุไว้ในสัญญาอย่างชัดเจน อาจจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวแล้วแต่ตามตกลงกันโดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ระหว่าง 30 ถึง 90 ปี การเช่าในลักษณะนี้มักใช้กับคอนโดมิเนียมที่อยู่ในที่ดินของบริษัทหรือบุคคลอื่น ๆ และเมื่อสิทธิการเช่าสิ้นสุดลง ผู้เช่าอาจมีสิทธิในการต่อสัญญาเช่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในสัญญา

การถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold):

การถือครองกรรมสิทธิ์คือการครอบครองทรัพย์สินในรูปแบบของการครอบครองอานุภาพ หรือการเป็นเจ้าของทรัพย์สินถูกต้องตามกฎหมายกำหนด คุณมีสิทธิ์ในการถือครองและใช้งานทรัพย์สินนี้โดยอิสระ และมีสิทธิ์ในการโอนทรัพย์สินนี้แก่ผู้อื่นได้ตามที่คุณต้องการ การถือครองกรรมสิทธิ์มักใช้กับบ้านเดี่ยวและที่ดินที่เป็นที่ดินของคุณ และมีอายุมากกว่าสิทธิการเช่า 

ความแตกต่างระหว่าง สิทธิการเช่า (Leasehold) และ การถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold)

• ระยะเวลา: สิทธิการเช่า (Leasehold) มักมีระยะเวลาที่จำกัดตามสัญญา ในขณะที่การถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold) มีอายุที่ยาวนานกว่า
• ความเสี่ยง: สิทธิการเช่า (Leasehold) มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการสิ้นสุดสัญญาและสภาวะทางกฎหมาย สำหรับการถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold) จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าเนื่องจากคุณมีสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย
• การควบคุม: ในสิทธิการเช่า (Leasehold) คุณอาจต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าและอาจไม่มีความเสมอภาคต่อทรัพย์สินเท่ากับการถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold)
• การโอนสิทธิ์: การถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold) ช่วยให้คุณสามารถโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้โดยอิสระ ในขณะที่การเช่า (Leasehold) อาจต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าของที่ดินหรือผู้ให้เช่า
• การโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน: ในกรณีของการถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold) การโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินมักต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานราชการและต้องชำระภาษีค่าโอนที่ดิน ในขณะที่สิทธิการเช่า (Leasehold)ไม่มีสิทธิในการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

การเลือกระหว่างสิทธิการเช่า และการถือครองกรรมสิทธิ์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และแผนการลงทุนของคุณ สิทธิการเช่าเหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้นหรือคนที่ต้องการที่อยู่ในที่ดินเพียงชั่วคราว ในขณะที่การถือครองกรรมสิทธิ์เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวและคนที่ต้องการความเสมอภาคในทรัพย์สินของตนเอง อย่างไรก็ดี คุณควรใช้เวลาในการศึกษาและปรึกษากับทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คุณตัดสินใจอย่างถูกต้องเมื่อต้องเลือกสิทธิในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

คอนโดในประเทศไทย: สำรวจราคาและเลือกบ้านใหม่ในสวรรค์ที่ไม่แพงเกินไป

คุณมีคำถามในใจเกี่ยวกับ การซื้อหรือการขายคอนโดในประเทศใช่ไหมคะ หรือบางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ!ราคาขายคอนโดในประเทศไทยมีราคาเท่าไหร่กันนะ? นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราพูดถึงที่อยู่ใหม่ในแดนเมืองสวรรค์อย่างประเทศไทย วันนี้เราจะมาตอบคำถามเหล่านั้นแต่ต้องบอกก่อนเลยว่าราคาที่แสดงจะเป็นราคาเฉลี่ย เพราะราคาขายคอนโดในประเทศไทยขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยนะคะ 

ราคาคอนโดในประเทศไทย

เมื่อพูดถึงราคาคอนโดในประเทศไทย มันอาจเป็นเรื่องที่มีความหลากหลายและอาจจะมีราคาที่แพงลิบลิ่ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร หรือเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างภูเก็ต ราคาของคอนโดมิเนียมมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง, ขนาดของห้อง, คุณสมบัติของโครงการรวมถึงชื่อเสียงของดีเวลลอปเปอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มาพร้อมกับคอนโด อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้วราคาขายคอนโดในประเทศแยกแต่ละพื้นที่ จะมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้:

• กรุงเทพมหานคร: ราคาขายคอนโดในกรุงเทพมหานคร เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ฿5,860,000 ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน กรุงเทพมหานคร อยู่ที่ ฿150,000 แต่คอนโดที่ตั้งในย่านที่เป็นศูนย์กลางและสถานที่สำคัญอาจมีราคาสูงกว่านี้
• ภูเก็ต: ราคาคอนโดในเกาะภูเก็ตมีความแตกต่างอย่างมาก แต่ราคาเฉลี่ยอยู่ระหว่าง ฿5,400,000 ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน ภูเก็ต อยู่ที่ ฿123,000 ถ้าหากเป็นคอนโดขนาด 3 ห้องนอนราคาเฉลี่ยอยู่ระหว่าง ฿58,200,000 ที่สำคัญถ้าโครงการคอนโดอยู่ริมทะเลหรือบนภูเขาอาจมีราคาสูงกว่านี้หลายเท่า
• หัวหิน: คอนโดในหัวหินมักมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ฿5,470,000 ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน หัวหิน อยู่ที่ ฿101,000 แต่ถ้าโครงการตั้งอยู่ทำเลรอบ ๆ ชายหาดอาจมีราคาสูงกว่านี้
• พัทยา: ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรีได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากพอสมควร โดยราคาคอนโดในพัทยาขึ้นอยู่กับพื้นที่แต่ราคาขายเฉลี่ยใน พัทยา อยู่ที่ประมาณ ฿3,580,000 ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน พัทยา อยู่ที่ ฿92,700 สำหรับโครงกาที่ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดมักมีราคาสูงกว่า
• เกาะสมุย: เกาะสมุยมีคอนโดริมชายหาดและบนภูเขา ราคาขายเฉลี่ยใน เกาะสมุย อยู่ที่ประมาณ ฿4,580,000 โดยจะมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน เกาะสมุย อยู่ที่ ฿72,900 สำหรับโครงการที่ใกล้ชายหาดมักมีราคาสูงกว่าหลายเท่า ยกตัวอย่าง คอนโด 3 ห้องนอน วิวทะเลราคาจะอยู่ที่ ฿16,900,00
• เชียงใหม่: อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย คอนโดในเชียงใหม่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ฿4,530,000 และราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ ฿54,100 แต่คอนโดในย่านใกล้เมืองเชียงใหม่อาจมีราคาสูงกว่านี้

แนวโน้มราคา

ราคาคอนโดในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เป็นผลมาจากความต้องการของผู้ซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทางด้านดีเวลลอปเปอร์เองต่างก็แข่งขันกันเริ่มต้นโครงการใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดกันมากขึ้นทำให้มีความแข่งขันระดับสูงในส่วนของคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการต่างๆ

อย่างไรก็ตาม, หากคุณกำลังมองหาคอนโดในราคาที่เหมาะสมและไม่อยากจ่ายแพงเกินไป คุณสามารถค้นหาคอนโดที่ตั้งอยู่ในย่านนอกเมืองหรือทำเลที่ยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก ราคาขายคอนโดในย่านนี้มักจะถูกกว่าเมืองใหญ่ แต่คุณยังคงสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ตามปกติ

กล่าวโดยสรุป คอนโดในประเทศไทยมีความหลากหลายและสามารถปรับตามสถานการณ์และความต้องการของผู้ซื้อได้ คุณควรพิจารณาความต้องการของคุณและงบประมาณของคุณก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดในทำเลต่าง ๆ ในประเทศไทย

หากคุณกำลังมองหาทำเลที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในชีวิตที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่ในภูเก็ต กรุงเทพมหานคร หัวหิน พัทยา เกาะสมุย หรือเชียงใหม่ แต่ละพื้นที่จะมีลักษณะและอัตราค่าครองชีพที่แตกต่างกัน เราจะพาคุณไปสำรวจจังหวัดที่น่าสนใจเหล่านี้ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง จังหวัดไหนจะเหมาะกับชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทย พร้อมกับข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการครองชีพ จากทุนเงินบำนาญรวมไปถึงการเพลิดเพลินกับอาหารและกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณของคุณแสนสุขและสนุกสนาน!

ภูเก็ต: เป็นเกาะสวรรค์ที่หลายคนฝันถึงและวางเป้าหมายที่จะมาใช้ชีวิตที่นี่ ภูเก็ตเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศและชายทะเลที่งดงามมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คุณสามารถเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่หาดป่าตองหรือหาดกะรน การครองชีพในภูเก็ตค่อนข้างสูง ตัวอย่างเช่น:

• ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในตัวเมือง: ประมาณ 15,000 - 35,000 บาทต่อเดือน
• อาหารและรายการอาหารสำเร็จรูป: ประมาณ 10,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
• ค่าบริการสุขภาพและการออกกำลังกาย: ประมาณ 1,000 - 3,000 บาทต่อเดือน

กรุงเทพมหานคร: เป็นศูนย์กลางและเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยมีความเจริญทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม อัตราการครองชีพที่นี่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูง แต่คุณจะได้รับการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ เช่น:

• ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในตัวเมือง: ประมาณ 20,000 - 40,000 บาทต่อเดือน
• อาหารและรายการอาหารสำเร็จรูป: ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือน
• ค่าบริการสุขภาพและการออกกำลังกาย: ประมาณ 2,000 5,000 บาทต่อเดือน

หัวหิน: เป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวา เรียบง่ายและเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการพักผ่อนและชอบความสงบในชีวิตหลังเกษียณ การครองชีพที่นี่อาจไม่ค่อยแพงมาก เช่น:

• ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในตัวเมืองหัวหิน: ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือน
• อาหารและรายการอาหารสำเร็จรูป: ประมาณ 7,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
• ค่าบริการสุขภาพและการออกกำลังกาย: ประมาณ 1,000 - 2,000 บาทต่อเดือน

พัทยา: เป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างการใช้ชีวิตตามแนวชายหาดและในเมือง ค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างสมเหตุสมผล และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตหลังเกษียณ ตัวอย่างเช่น:

• ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในตัวเมืองพัทยา: ประมาณ 15,000 - 30,000 บาทต่อเดือน
• อาหารและรายการอาหารสำเร็จรูป: ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือน
• ค่าบริการสุขภาพและการออกกำลังกาย: ประมาณ 1,500 - 3,000 บาทต่อเดือน

เกาะสมุย: เกาะสมุยเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างสงบและมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยธรรมชาติป่าเขาและทะเล ค่าครองชีพที่นี่อาจจะไม่ได้ถูกมาก แต่คุณจะได้รับความสงบและความสวยงามของเกาะเพลิดเพลินกับธรรมชาติบนเกาะสมุยได้ตามแบบของคุณเอง ตัวอย่างเช่น:

• ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในตัวเมืองสมุย: ประมาณ 15,000 - 30,000 บาทต่อเดือน
• อาหารและรายการอาหารสำเร็จรูป: ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือน
• ค่าบริการสุขภาพและการออกกำลังกาย: ประมาณ 1,500 - 3,000 บาทต่อเดือน

เชียงใหม่: เชียงใหม่เป็นจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย มีบรรยากาศเย็นสบายตลอดปี มีคอนโดมิเนียมในราคาเบา ๆ ไม่แพงมากนักถ้าเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่น ๆ อย่างภูเก็ต และกรุงเทพมหานครสำหรับค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างจะสมเหตุสมผลและต่ำกว่าพื้นที่อื่น ๆ มาก แต่คุณก็ยังคงได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น:

• ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในตัวเมืองเชียงใหม่: ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือน
• อาหารและรายการอาหารสำเร็จรูป: ประมาณ 7,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
• ค่าบริการสุขภาพและการออกกำลังกาย: ประมาณ 1,000 - 2,000 บาทต่อเดือน

การเลือกทำเลที่จะอยู่อาศัยหลังเกษียณเป็นคำ decision สำคัญในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกอาศัยอยู่ในภูเก็ต กรุงเทพมหานคร หัวหิน พัทยา เกาะสมุย หรือเชียงใหม่ คุณจะได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีและค่าครองชีพที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ โดยค่าครองชีพขึ้นอยู่กับรูปแบบการดำรงชีวิตและความพร้อมของคุณในการจัดการทรัพย์สินของคุณหลังเกษียณ ดังนั้นคุณควรให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินของคุณเอาไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะอยู่ที่ไหนในวัยหลังเกษียณ เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณของคุณเป็นเวลาที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความสุข!

หากคุณมองหาคอนโดขายในประเทศไทยอย่าลืมติดตามเราเพื่อเข้าถึงข้อมูลและปรึกษากับเราได้ไม่ว่าคุณต้องการอาศัยอยู่ที่ไหน เรามีคอนโดขายทั่วประเทศไทยเพื่อที่จะนำเสนอให้กับคุณได้ตลอดเวลา 

ไทย เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลก แบ่งเป็นจังหวัดได้ทั้งหมด 77 จังหวัด มีเนื้อที่ประมาณ 512,816 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่น้ำ 2,230 ตารางกิโลเมตร และไทยยังถือเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ โดยมีรายได้หลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริการ ณ จุดนี้ ทำให้ไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอันมาก อาทิ เช่น กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, พัทยา และเชียงใหม่ รวมถึงเกาะต่างๆ ก็สวยงาม นักท่องเที่ยวเลยหลงไหลทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรม ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นอันดับต้นๆ ทำให้มีนักท่องเที่ยวอยากเข้ามาซื้อบ้านและคอนโด เพื่อใช้อยู่อาศัยในช่วงเกษียณ หรือ เป็นบ้านพักตากอากาศยามมาพักร้อน ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ในแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้เลยมีมูลค่าสูงกว่าที่อื่นๆ ด้านการคมนาคมสำคัญนั้น ไทย มีท่าอากาศยานทั้งหมด 38 แห่ง (ท่าอากาศยานนานาชาติ 7 แห่ง) กระจายอยู่ทั่วทุกภาค และมีทางรถไฟยาวรวมกว่า 4,429 กิโลเมตร ซึ่งประชากรใน ไทย ถือว่ามีขนาดจำนวนประชากรที่ยังน้อยอยู่ โดยมีทั้งสิ้น 66,558,935 คน แบ่งเป็นผู้ชาย จำนวน 32,605,100 คน และผู้หญิง จำนวน 33,953,835 คน และถ้าเทียบกับความหนาแน่นประชากรของโลกแล้ว จะเห็นว่า ไทย นั้นอยู่อันดับประมาณที่ 73 ของโลก จาก 229 ประเทศ (เครดิต Wikipedia.org) ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นที่ไม่มากนัก เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 130 คน ต่อ ตารางกิโลเมตร

ถ้ามองในมุมของ ราคาขายคอนโดเฉลี่ย ใน ไทย จะอยู่ที่ ฿7,430,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคากลางๆ ค่อนไปทางราคาสูง ปัจจัยหลักคือ ราคาที่ดินที่มีมูลค่าสูง อยู่ในแหล่งธุรกิจ มีสาธารณูปโภครายล้อม ครบครัน การเดินทางก็สะดวกสบาย ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่ มักจะมองคอนโด ราคาระดับนี้ เพื่ออยู่อาศัยกับครอบครัวใหญ่ หรือ เป็นผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งคุณภาพของคอนโด จะเป็นที่ยอมรับกันว่าค่อนข้างหรูหรา วัสดุชั้นดี การก่อสร้างที่มีมาตรฐานสูง รวมไปถึงขนาดพืนที่ใช้สอยที่ใหญ่มาก เพื่อรองรับความเป็นอยู่ที่ดี และมีคุณภาพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ราคาต่อตารางเมตรขนาด ฿135,000 บาทนี้ ผู้ซื้อจะได้รับอะไรจากคอนโดนี้บ้าง เพราะราคาระดับนี้สะท้อนถึง ความสะดวกสบายขั้นสุด ไม่ว่าจะความสะดวกในการเดินทาง โอกาสในการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สวยงามเป็นธรรมชาติ การดีไซน์ที่โดดเด่น วัสดุก่อสร้างระดับพรีเมียม สาธารณูปโภคที่พร้อมสรรพ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง และวิวจากคอนโด ที่งดงามอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีประกาศขาย ทั้งหมดใน108Siam อยู่ที่ 62,007 ยูนิต ในเรื่องของการซื้อ คอนโด เพื่อลงทุนแล้วนั้น จะเห็นว่า ในพื้นที่ของ ไทย นี้จะสามารถหาผลตอบแทนได้ระหว่าง 6% - 8% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง และน่าลงทุนเลยทีเดียว โดยโครงการส่วนใหญ่ จะให้ผลตอบแทนระดับนี้ เพื่อจูงใจให้นักลงทุนอยากซื้อนั่นเอง

• 1. เลขที่ยูนิต: U1726532 - Embassy Pattaya ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 55 ตรม. ราคา ฿7,000,000
• 2. เลขที่ยูนิต: U491262 - Neo Condo ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 58 ตรม. ราคา ฿3,800,000
• 3. เลขที่ยูนิต: U1703144 - The Marin Phuket ขนาด สตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 40 ตรม. ราคา ฿6,600,000
• 4. เลขที่ยูนิต: U1740832 - Life Rama 4 - Asoke ขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 90 ตรม. ราคา ฿14,990,000
• 5. เลขที่ยูนิต: U483600 - Jomtien Plaza Condotel ขนาด สตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 52 ตรม. ราคา ฿3,500,000